3 สิ่งที่ควรจำใส่ใจเมื่อเริ่มฝึกร้องเพลง Part 1 - ร้องเพลงดอทคอม - สอนร้องเพลงสดและออนไลน์
3สิ่งที่ควรใส่ใจเมื่อเริ่มฝึกร้องเพลง ตอนที่ 1

3สิ่งที่ควรใส่ใจเมื่อเริ่มฝึกร้องเพลง ตอนที่ 1

3 สิ่งที่ครูฟิล์มอยากให้ใส่ใจเมื่อเริ่มฝึกร้องเพลง Part 1

สวัสดีแฟนๆชาวร้องเพลงดอทคอมทุกๆคนครับ กลับมาพบกับครูฟิล์มกันอีกครั้ง ครูฟิล์มหวังว่าทุกๆคนคงจะสบายดีก็ก็ยังคงฝึกร้องเพลงกันอย่างสม่ำเสมอนะครับ วันนี้ครูฟิล์มจะมาพูดถึงเรื่องที่คนที่อยากร้องเพลงเพราะและเป็นตัวของตัวเอง ควรจะมีอยู่ในครับ
สำหรับคนที่เริ่มต้นร้องเพลงใหม่ๆ (หรือร้องมานานก็อาจจะลืมเรื่องเหล่านี้) ถ้าเสียงเราไม่ได้มีปัญหา เสียงเราก็ไม่เพี้ยน เสียงสูงต่ำทำได้ดี แต่ร้องเพลงอย่างไรก็ไม่เพราะ ร้องแล้วรู้สึกว่าไม่มีมิติ ร้องเพลงแล้วไม่ฟิน ร้องเพลงแล้วรู้สึกล้น รู้สึกไม่ชอบตัวเองเวลาร้อง ถ้าเป็นแบบนี้ อาจจะถึงเวลาที่เราจะต้องกลับมารีวิวเรื่องเหล่านี้กันอีกครั้งนะครับ
คนที่เริ่มร้องเพลงใหม่ๆ มักจะมีคำถามเสมอว่า ต้องใส่อารมณ์อย่างไร ต้องเอื้อนหรืออิมโพรไวซ์เยอะขนาดไหน ร้องร้องอย่างไรถึงจะมีเอกลักษณ์และเป็นตัวเอง … วันนี้เราจะมาตอบปัญหานี้ และมาเรียงลำดับความคิดกันใหม่ครับ
ก่อนอื่นที่จะต้องทำคือ ถอยหลังกลับมาตั้งหลักกันก่อนครับ แล้วค่อยๆคิดตาม 3 ข้อนี้ให้ดีๆครับ
1. Singing is Story Telling การร้องเพลงคือการเล่าเรื่อง เวลาเราเล่าเรื่องเราสร้างความน่าสนใจให้กับเรื่องที่เราเล่าได้อย่างไรบ้าง (ลองใช้เวลาคิดดูสักนิด) เราสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้เรื่องที่เราเล่าได้ด้วยการ ใช้น้ำเสียงที่มีนำ้หนักต่างกัน น้ำเสียงที่มีความสูงต่ำต่างกัน น้ำเสียงที่ดังเบาต่างกัน บางครั้งเราทำเสียงที่ตื่นเต้น หรือเศร้า เพื่อสร้างอารมณ์ในการเล่าเรื่อง เราอาจจะหายใจแรงขึ้นเมื่อเราตื่นเต้นหรือกำลังเล่าเรื่องที่เราโกรธ เราอาจจะยิ้มเวลาเราเล่าเรื่องที่มีความสุข เราอาจจะพูดติดกันโดยไม่หายใจ เพราะว่าเรากำลังอินกับเรื่องที่พูดมากๆ
การร้องเพลงเหมือนกันครับ เหมือนกับที่ครูฟิล์มกล่าวมาทั้งหมดเลย เราต้องสร้างความน่าสนใจให้กับเรื่องที่เรากำลังเลือก ไม่อย่างนั้นแล้ว เราก็ได้แต่ร้องเพลงออกไป ร้องไม่เพี้ยนแต่ร้องอย่างไรก็ไม่ได้ใจคนฟังครับ เพราะว่ามันไม่มีมิติ ไม่มีความหมาย ไม่สื่อความหมาย และไม่สามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจคนฟังได้ครับ
แต่เรื่องนี้ก็มีเรื่องที่ต้องระวัง เพราะว่าถ้าเราทำอะไรมากไป แทนที่จะทำให้คนสนใจสิ่งที่เรากำลังสื่อสาร คนจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปในสิ่งที่ถูกทำมากจนเกินไป เช่นเอื้อนมากไป ใส่อารมณ์เว่อร์มากเกินไป ใส่ลูกคอไม่ยั้ง แทนที่สิ่งเหล่านี้จะทำให้เพลงน่าสนใจมากขึ้น กลับทำให้เพลงนั้นดูล้นฟังดูแย่ไปเลยก็เป็นไปได้
2. Be honest to yourself จริงใจกับสิ่งที่เราทำ สิ่งนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมากๆครับ สิ่งที่เราชอบ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้ดี ถ้าพูดแบบนี้หลายๆคนก็อาจจะคิดว่า ครูฟิล์มกำลังแนะนำให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบแต่ทำได้ดีหรือเปล่า… เปล่าครับ ครูฟิล์มอยากให้ทุกๆคน ใช้เวลาในการคิดและค้นหาให้เจอว่า เราชอบฟังอะไร เราชอบร้องอะไร เรามีความสุขที่ได้ทำอะไร และคิดต่อไปว่าแล้วเราทำอะไรได้ดี เราทำอะไรแล้วรู้สึกว่าง่าย เราทำอะไรแล้วมีคนชื่นชมในสิ่งที่เราทำ
ถ้าเราสามารถหาสองสิ่งนี้เจอเท่ากับว่าเราสำเร็จมาแล้วครึ่งทางนะครับ ยังมีคนอีกหลายล้านคนบนโลกใบนี้ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบอะไร และไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ดี ลองคิดดูสิครับว่าพวกเค้าจะรู้สึกอย่างไรที่หาคำตอบนี้ให้ตัวเองไม่ได้
เราควรทำสิ่งที่เราทำได้ดีให้ดียิ่งขึ้นไป และค่อยๆนำมันไปใส่ในสิ่งที่เราชอบ บางครั้งเราอาจจะสามารถสร้างสรรค์งานดีๆจากการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วด้วยความสามารถของเราที่ช่วยเติมเต็มให้งานสมบูรณ์มากขึ้นก็ได้ หรือบางครั้งเราก็เอาสิ่งที่เราชอบบางอย่างค่อยๆปรับเข้ามาสู้สิ่งที่เราทำได้ดี ทำให้เรามีทักษะใหม่ๆเพื่อเอาไว้ใช้ร้องในอนาคต เพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวเองได้ครับ
3. Quality is more important than quantity คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ บางครั้งคนเราก็แปลกนะครับ แข่งกันว่าใครร้องดังกว่า แข่งกันว่าใครร้องเสียงสูงกว่า แข่งกันว่าใครเอื้อนได้เยอะกว่า แข่งกันต่างๆนานา แต่หารู้ไม่ว่า เมื่อมันอยู่ในเพลงและมันเยอะเกินไป มันทำให้ไม่สมดุล ทำให้ล้น จนฟังไม่เพราะไปเลย ไม่เคยมีใครแข่งกันเรื่องความพอดีเลย ความพอดีเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่จะหาได้จากนักร้องที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะความพอดีจะทำให้คนดูรู้สึกเพลิดเพลินกับสิ่งที่ไดัฟังแต่เมื่อฟังจบแล้วก็ต้องร้องว้าวออกมาเพราะว่ามันเพราะติดอยู่ในใจ ฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ ความพอดีเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนทั้งการร้องและการฟังครับ และที่สำคัญต้องได้โค้ชที่มีสไตล์การร้องที่ดี สิ่งที่คนมักจะใส่มากจนเกินไป ก็เช่น ลูกคอ การเอื้อน การ improvise ความดัง เพราะฉะนั้น คนที่กำลังฝึกร้องเพลงต้องระวังเรื่องพวกนี้ให้ดีนะครับ ถ้าเราเห็นว่าอะไรที่ใส่มากไป ก็สามารถค่อยๆลดลงได้จนเจอจุดที่พอดีครับ
ครั้งหน้าเราจะมาดูกันต่อว่า 3 ข้อต่อไปที่เราควรจะใส่ใจมีอะไรกันบ้าง ยังไงรอติดตามกันนะครับ
ใครกลัวที่จะพลาดบทความดีๆจากครูฟิล์ม สามารถตามไปอ่านต่อได้ที่ https://www.rongpleng.com/blog ได้เลยครับ
และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่เรียนร้องเพลงและการใช้เสียงตัวต่อตัวและออนไลน์ผ่านกล้องสดๆกับครูของเรา สามารถสอบถามกันเข้ามาได้ที่ ไลน์ไอดี @rongpleng หรือโทรหาเราได้ที่ 099-2324519 แอดมินยินดีตอบทุกคำถามครับ